วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Rolls Royce



Kawasaki Ninja 250 “นินจา 250″ รุ่นปี 2013


แรงไม่ตก Kawasaki Ninja 250 “นินจา 250″ รุ่นปี 2013 ราคากลาง 162,500 บาท (รวม vat แล้ว) Big Bike ยอดนิยม อนันต์มันนี่ ขอแนะนำให้แฟนๆ ขาร็อค ได้รู้จัก
Kawasaki Ninja 250 2013 “นินจา 250″ มี 3 สีโดนใจทั้ง สีดำสีเขียว และสีแดง แรงส์ ด้วยเครื่องยนต์ 250 ซีซี โดดเด่น สะดุดตาเฉียบคม สไตล์สปอร์ต ตั้งแต่หน้าจรดท้าย ประหยัดน้ำมันกับระบบหัวฉีด สตาร์ทง่าย จ่ายน้ำมันได้

รถจักรยานยนต์รุ่น : Ninja 250 “นินจา 250″ (รุ่นปี 2013)
ยี่ห้อ : คาวาซากิ “Kawasaki”
ราคากลาง : 162,500 บาท* “รวม VAT แล้ว / ซื้อเป็นเงินสด หรือผ่อนก็ได้”
แต่ ที่ขายกันจริงๆ ราคาจะประมาณ 162,500 – 175,000 บาท
*ราคาอาจเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย ตามโปรโมชั่นของแต่ละ Dealer*
ตัวแทนจำหน่าย : โชว์รูม Kawasaki ทั่วประเทศ
Kawasaki-Ninja-250จำหน่าย : จำหน่ายแล้วทั่วประเทศ
โปรโมชั่น : ผ่อน Kawasaki Ninja 250 “นินจา 250″
สถาบันการเงินที่แนะนำ : Dealer Kawasaki, กรุงศรีออโต้, ราชธานีลิสซิ่ง ฯ
เงินดาวน์ : เริ่มต้น 15%+ดาวน์เริ่มต้นที่ 24,300 บาท กับ กรุงศรีออโต้
ดอกเบี้ย : เริ่มต้นที่ 9% ต่อปี+รถจักรยานยนต์ Big Bike 250 cc ขึ้นไป สถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยต่ำกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไปประมาณ 50-60%
ระยะเวลาผ่อน : ผ่อน 18, 24, 30, 36 เดือน
ตารางราคา เงินดาวน์ ค่างวด และตารางผ่อน Kawasaki Ninja 250 “นินจา 250″ :
*ค่างวดอาจเปลี่ยนแปลงได้ ตามเงื่อนไข ราคา เงินดาวน์ อัตราดอกเบี้ย ที่แต่ละ Dealer และสถาบันการเงินกำหนด*ราคา ninja 250, เงินดาวน์ ninja 250, ค่างวด ninja 250, ตารางผ่อน Ninja 250
สี Kawasaki Ninja 250 : รุ่นปี 2013 มี 3 สีให้เลือกคือ สีเขียวสีแดง และสีดำนินจา 250 สีเขียว, นินจา 250 สีแดง, นินจาก 250 สีดำ
Kawasaki Ninja 250 : บิ๊กไบค์ สไตล์สปอร์ต มาพร้อมกับกระบังลมหน้า และโคมไฟ ที่เป็นเอกลักษณ์แบบนินจา ดูหรู และลู่ลม แผงหน้าปัดขนาดใหญ่ พร้อมไฟ LED ช่วยในการมองเห็นยามค่ำคืน ไปได้สุดทางกับถังน้ำมันขนาดใหญ่ ท่อไอเสียทรงสั้น ช่วยเก็บเสียงไม่รบกวนสังคมมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังเท่ไม่เบาด้วยแม็ก 10 ก้าน พร้อมกับยางขนาด 140 มม. แลดูแข็งแรงบึกบึน และช่วยให้เกาะถนนได้เป็นเยี่ยมKawasaki-Ninja-250-design-1
คาวาซากิ นินจา 250 แรงด้วยเครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี 2 สูบเรียง 4 จังหวะ จ่ายน้ำมันระบบหัวฉีด เสื้อสูบใหม่ แบบอลูมิเนียมไร้ปลอก ช่วยให้รถเบาขึ้น ถ่ายเทความร้อนได้ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ โครงสร้างและตัวถังออกแบบสอดประสาน กับระบบกันสะเทือนใหม่ ทรงตัวได้ยอดเยี่ยม ระบายความร้อนขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นกับการออกแบบที่เหนือชั้น ด้วยฝากครอบพัดลมหม้อน้ำจะนำความร้อนลงด้านล่าง พร้อมกับครีบและช่องระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้น หยุดแบบสั่งได้กับดิสก์เบรกหน้า-หลังลายฉลุ ให้แฟนๆมั่นใจได้ทุกสภาพการขับขี่Kawasaki-Ninja-250-design-2
สเปคของ Kawasaki Ninja 250
+เครื่องยนต์ : ระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด พร้อมกับลิ้นผีเสื้อคู่, 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
+น้ำมันเชื้อเพลิง : เบนซิน 91, 95 แก๊สโซฮอลล์ 91, 95 หรือ E20 ก็ได้ แต่อย่าผสมกันหละ
+ความจุถังน้ำมัน : 17 ลิตร
+กระบอกสูบ : 249 ซีซี
+ระบบสตาร์ท : สตาร์ทไฟฟ้า
+คลัทช์ : คลัทช์มือ
+จุดระเบิด : ดิจิตอล
+ระบบเกียร์ : 6 เกียร์ แบบรีเทิร์น
+ระบบห้ามล้อหน้า-หลัง : จานดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด 290 มม.(ล้อหน้า), 220 มม.(ล้อหลัง) พร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่
+โช้คอัพหน้า : โช๊คอัพเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม.
+โช้คอัพหลัง : โช๊คแก๊สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ
+ล้อ : ล้อแม็กซ์ 10 ก้าน
+ยางล้อหน้า : 110/70-17 M/C (54S)
+ยางล้อหลัง : 140/70-17 M/C (66S)
Kawasaki Ninja 250 มาใหม่รอบนี้ คงถูกใจ แฟนๆ อนันต์มันนี่ ขาแว๊นซ์ และสก๊อย รุ่นใหญ่ มีให้เลือก 3 สี ด้วยกัน จัดไปได้เลยกับ Kawasaki Ninja 250 เท่มาก จนใครๆ ต้องเหลียวมองราคาก็แพงไม่เบา แนะนำให้ดาวน์เยอะๆ จะได้ผ่อนสบายๆ กับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ขอบคุณ : Kawasaki

Ducati



Lamborghini


ลัมโปร์กินี เป็นชื่อของรถสปอร์ทที่ปรากฎตัวออกสู่สายตาโลกเมื่อประมาณสามทศวรรษที่ผ่านมานี้เอง แต่ชื่อเสียงและกิตติคุณของรถสปอร์ทพันธ์อิตาลียี่ห้อนี้ กลับโด่งดังไม่แพ้รถสปอร์ทเก่าแก่อย่าง อัลฟา-โรเมโอ เฟร์รารี หรือ มาเซราตีนั่นเลย สัญลักษณ์ของ ลัมโบร์กินี เป็นรูปวัวกระทิง บรรจุอยู่ในโล่ โดยมีแถบชื่อ LAMBORGHINI พาดทับอยู่ด้านบน การที่ลัมโบร์กินีใช้รูปวัวกระทิงเป็นสัญสักษณ์ก็เนื่องจากสัตว์ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของผู้ก่อตั้งกิจการนั่นเอง เฟร์รุชชิโอ สัมโบร์กินี (FERRUCCIO LAMBORGHINE) ชาวอิตาลีผู้ก่อร่างสร้างตัวจากเงินในกระเป๋าไม่กี่หมื่นลีร์ จนกลายเป็นนักธุรกิจระดับ “มัลติมิลเลียนแนร์” ผู้มีกิจการใหญ่โตในวงการอุต-สาหกรรมรถแทรคเตอร์และเครื่องปรับอากาศของเมืองมะกะโลนี ได้ควักเงินทุนก้อนหนึ่งก่อตั้งบริษัท ออโตโมบิลี เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินี เอศพีเอ (AUTOMOBILI FERRUCCIO LAMBORGHINI S.p.A.) ขึ้นเมื่อปี 1962 โดยที่จุดมุ่งหมายของบริษัทเกิดใหม่นี้ก็คือ ผลิตรถสปอร์ทชั้นยอดออกขายแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่างเฟร์รารี ที่เฟร์รุชชิโอ ลัมโบร์กินีเคยเป็นลูกค้ามาก่อน เล่าขานสืบต่อกันมาว่า มูลเหตุที่ทำให้ มร.ลัมโบร์กินี คิดจะผลิตรถขึ้นเองก็เพราะไม่พอใจในบริการที่ได้รับจากเฟร์ารรีนั่นเอง และข้อได้เปรียบของลัมโบร์กินีก็คือ ก่อนที่จะหันมาเอาดีกับการผลิตรถสปอร์ทระดับ”ซูเพอร์คาร์” ลัมโบร์กินีมีโรงงานผลิตรถแทรคเตอร์อยู่แล้ว

ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลาแรมปีในการสร้างสมเกียรติยศชื่อเสียง แต่สำหรับลัมโบร์กินีที่เริ่มต้นกิจการด้วยคำขวัญ “มาหาลัมโบร์กินี ถ้าต้องการรถที่ดีที่สุดในโลก” ความสำเร็จเกิดขึ้นในเวลาชั่วคืน รถสปอร์ทแทบทุกรุ่นที่ลัมโบร์กินีผลิตออกสู่ตลาด ได้รับความนิยมจากนักเลงรถสปอร์ท “รายได้สูง รสนิยมสูง” จนผลิตขายแทบไม่ทัน โดยเฉพาะรถ ลัมโบร์กินี มีอูรา (LAMBORGHINI MIURA) ซึ่งปรากฎตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมรถยนต์ตูรินเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1965 และออกจำหน่ายสองปีหลังจากนั้น นับเป็นรถที่สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณให้แก่ผู้ผลิตรถสปอร์ทรายนี้ยิ่งกว่ารถรุ่นอื่น ๆ ลัมโบร์กินีใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถก้าวขึ้นมาเทียมบ่าเทียมไหล่กับเจ้ายุทธจักรรถสปอร์ท อย่างเฟร์รารีได้สำเร็จ ในเดือนมิถุนายน 1981 ลัมโบร์กินีเปลี่ยนชื่อกิจการเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ นูโอวา ออโตโมบิสี เฟร์รุขขิโอ ลัมโบร์กินี เอสพีเอ (NUOVA AUTOMOBILI FERRUCCIO LAMBORGHINI S.p.A.)


                                                                                                                        http://ลัมโบกินี่.com/